ตอนที่ 8 : DAY 6 มุ่งสู่ปารีส แดนศิวิไลซ์

อีกครั้งที่ต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟเบิร์นเพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงจาก Berne สู่ Paris ซึ่งเราได้จองตั๋วทางเว็บจากเมืองไทยแล้ว เพียงแต่พิมพ์ e-ticket ติดตัวมาด้วย ซึ่งการเดินทางจะออกจากสวิส 9.10 น. ถีง Paris Gare De Lyon ประมาณ 13.37 ใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง
เช่นเคย คุณหญิงและ คุณ Werner ได้เตรียมอาหารเช้าสำหรับเราและแซนด์วิช น้ำขวด น้ำแก๊ส  สำหรับทานบนรถไฟ ประทับใจและขอบคุณมากค่ะ คุณ Werner ก็ยังได้พาเรามาส่งที่สถานีรถไฟด้วย

สงสัย ทำไมต้องกางร่มให้ต้นไม้ ?? เหตุผลคือ น้ำค้างแรง ป้องกันดอกไม้ไม่ให้ช้ำ

เมื่อได้ร่ำลากันแล้วก็ได้เวลาเดินทางสู่ปารีส ระหว่างทางก็หลับบ้าง ปรึกษาเรื่องสถานที่ในปารีสบ้าง แป๊ปเดียวถึงละ สถานี Paris Gare De Lyon

.

สถานี Gare De Lyon เป็นจุดตัดของรถไฟใต้ดินหลายสาย เราลงไปใต้ดิน นั่ง Metro สาย 14 (M14) ไปลงสุดสายที่สถานี Madeleine แล้วต่อ M8 (มุ่งหน้า Balard) ไปลงที่ La Motte Picquet Grenelle แล้วจริงๆต้องต่อ M6 ไปอีก 1 สถานี คือ Duplex แต่ขณะนั้นสาย M6 กำลังอยู่ในระหว่างซ่อมแซม เราเลยต้องเดินลากกระเป๋าจาก La Motte ไปยังโรงแรมที่จองไว้ Hotel Eiffel Petit Louvre

Map ที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา

เมื่อเช็คอินเข้าโรงแรมเสร็จ ล้างหน้าล้างตาก็เตรียมออกลุยหอไอเฟลเลย เพราะอยู่ใกล้ๆที่พัก ภาพนี้ถ่ายจากหน้าต่างโรงแรม ที่เห็นสะพานเหล็กคือ เส้นทางของ M6 ที่อยู่ระหว่างซ่อมแซม

หอไอเฟล (Tour Eiffel หรือ Eiffel Tower) ถูกสร้างในปี ค.ศ.1887-1889 ใว้เวลาก่อสร้าง 2 ปี 2 เดือน กับ 5 วัน หอไอเฟลเป็นหอคอยสร้างด้วยโครงเหล็ก ใช้เหล็ก 18038 ท่อน ใช้หมุดยึด 2500000 ตัว หนักถึง 10000 ตัน สูงถึง 300 เมตร ตั้งอยู่บนถนน ชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ที่ออกแบบ คือ“กุสตาฟ ไอเฟล” เป็นวิศวกรและสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติอุตสาหกรรม จริงๆแล้วเป็นการสร้างชั่วคราวเพื่อฉลองแล้วจะรื้อทิ้ง หอไอเฟลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากมีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการสิ่งก่อสร้างในอดีต ไม่เข้ากับอาคารบ้านเรือนและโบสถ์เก่าแก่ในเมือง ดูแล้วไร้ซึ่งความเป็นศิลปะ และทำลายทัศนียภาพของกรุงปารีส ถึงกับถูกศิลปินแขนงต่างๆ ประณามว่า “หอไอเฟลคือความอัปลักษณ์บนใบหน้าของปารีส” แต่หอไอเฟลกลับเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ และทางการสื่อสารมวลชนของประเทศก็ตัดสินใจโหวตให้เก็บหอไอเฟลไว้

กว่าจะได้ภาพสวยๆ

บนสะพานข้ามแม่น้ำแซน (Seine)  มีเรือ boat cruise on river Seine เพื่อชมวิวรอบเมือง

บนสะพานข้ามแม่น้ำแซน ซึ่งมีถนนยาวทอดสู่หอไอเฟล

สนามหญ้าหน้าปราสาท Palais de Chaillot

ปราสาท Palais de Chaillot

 เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย เพื่อรอชมบรรยากาศหอไอเฟลยามค่ำคืน (แต่ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มละนะ)  

เลยแวะทานสเต็คปารีสซะหน่อย สรุป แพง อร่อยสู้สเต็คบ้านเราไม่ได้ 555

หลังจากอิ่มก็มืดพอดี ได้เวลาซึมซับบรรยากาศหอไอเฟลยามค่ำคืน เราเลือกที่จะชมจากลานหน้าปราสาท Palais de Chaillot ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ถ่ายภาพหอไอเฟลได้สวยงาม คนเยอะมาก

ดึกแล้ว คนก็เยอะมาก เดินกลับโรงแรม พรุ่งนี้เตรียมลุยปารีสแต่เช้า โบสถ์ Notre Dame - พิพิธภัณฑ์ Louvre เพื่อตามรอย Da Vinci Code แล้วตอนเย็นจะกลับมาดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ยอดหอไอเฟล

หลับฝันดีนะคะ.........